วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

ยิ้มสวยด้วยความมั้นใจ





ยิ้มสวยด้วยความมั้นใจ


น.อ. หญิง พัฒนทวิ ศรีสมวงศ์ ร.น.
คุณคงสงสัยละซีว่า ชื่อเรื่องนี้จริงหรือไม่จริงอย่างไร สมมติว่ารูปหน้าคุณสุดสวย ปาก แก้ม คิ้ว คาง น่าดูไปหมดหนุ่มน้อยหนุ่มมากเห็นแล้วหัวใจจะหยุดเต้น แต่เวลายิ้มเธอต้องเอามือปิดปากทุกครั้งไป เผลอเมื่อไหร่หนุ่มเหล่านั้น เป็นหัวใจวายไปจริง ๆ เพราะตกใจในฟันหยินออกมานอกปาก ถ้าเป็นชายก็ไม่ต้องไปสักลายเสือให้คนกลัว เพราะ "ฟันไม่เข้า" อยู่แล้ว (เนื่องจากฟันยื่นออกมามาก)
ดังนั้นจะปล่อยให้ฟันมาทำลายความสวย ความหล่อและบุคลิกของคุณอยู่ทำไม การแพทย์เราเจริญไปไกลแล้ว เพียงแต่รวบรวมความกล้า ไม่กลัวหมอฟันซะอย่างเดียว
แล้วควรจะไปหาหมอฟันเมื่อไหร่ล่ะ
สมัยนี้ทั้งคุณพ่อคุณแม่ได้รับคำแนะนำตั้งแต่ไปฝากครรภ์แล้ว พอลูกรักคลอดออกมา พ่อแม่ควรทะนุถนอมดูแลในปากตั้งแต่แรกเกิด ฟันน้ำนมจะเริ่มขึ้นอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป คุณก็เริ่มพาลูกไปทำความคุ้นเคยกับหมอฟัน พออายุ 6 ปี ฟันแท้ซี่แรกจะเริ่มโผล่ขึ้นมาบ้างแล้ว ซี่อื่นก็จะทยอยตามขึ้นมา ซึ่งคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำ และไปตรวจฟันทุก ๆ 6 เดือน เพื่อให้สุขภาพช่องปากดี แต่ถ้าเริ่มมีฟันที่ขึ้นแตกแถวไป หมอฟันก็จะช่วยได้ตั้งแต่แรก เป็นการป้องกันไม่ให้ฟันขึ้นผิดที่ผิดทาง และช่วยให้โครงสร้างใบหน้าปกติไม่เป็นปัญหายุ่งยากเมื่อโตขึ้น
แต่บางครั้งลูกน้อยเจ้าของฟันจะไม่สนใจ ฟันซ้อน ฟันเก ฟันเหยิน ฟันห่างของตนเองจนกว่าเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาวนั่นแหละ ก็ตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป ซึ่งระยะนี้จะเป็นการแก้ไขบำบัดรักษาความผิดปกติของฟันบนฟันล่าง รวมถึงโครงสร้างใบหน้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกได้สัดส่วนของแต่ละคนเครื่องมือจัดฟันก็จะมากขึ้น ระยะเวลาก็จะนานขึ้นเหมือนกับไม้อ่อนดัดง่าย ไม่แก่ดัดยาก โดยเฉลี่ยแล้ว 18-24 เดือน
ฟันคุณอยู่ในข่ายต้องจัดหรือเปล่า
นอกจากฟันที่ขึ้นผิดตำแหน่งต่าง ๆ กันแล้ว โครงสร้างของกระดูกยังมีส่วนทำให้ลักษณะใบหน้าแตกต่างกัน โดยทั่วไปแบ่งเป็น 3 แบบ
1. ใบหน้าปกติ มีโครงสร้างใบหน้า และการสบฟัน (คือฟันบนกับฟันล่างเจอกัน) ปกติคุณโชคดีแล้ว ไม่ต้องเจอเครื่องมือจัดฟัน
2. ใบหน้าโค้งนูน คางหลุบ ดูจากด้านข้างใบหน้าจะเห็นได้ชัด ริมฝีปากบนอูม ฟันบนจะยื่นออก ขากรรไกรล่างจะล้ำเข้าใน
3. ใบหน้าเว้า คางยื่น ดูใบหน้าด้านข้าง ขากรรไกรล่างจะยื่นออกไปข้างหน้ามากกว่าปกติ
จะจัดฟันดีไหม
เรื่องสวยเรื่องหล่อขึ้นน่ะดีกว่าเดิมแน่นอน ยิ่มได้เต็มที่ เวลาคุยกับใครก็ไม่ต้องเอามือปิดปากอีกแล้ว อีกทั้งฟันที่เรียบเป็นระเบียบ ย่อมแปรงทำความสะอาดได้ง่ายกว่าฟันซ้อน ฟันเก กลิ่นปากก็สะอาด พูดจาประสาดอกไม้ได้สบาย นอกจากนั้นยังช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ดี ป้องกันและแก้ไขความผิดปกติของหัวข้อต่อขากรรไกรที่อาจมีปัญหาภายหลังได้อีกด้วย
ทางที่ดีไปคุยรายละเอียดกับหมอจัดฟัน ซักถามทุกซอกฟัน ให้เข้าใจก่อนจึงตัดสินใจด้วยตนเอง เพราะความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอขณะจัดฟันมีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าเป็นเด็กเล็กการเอาใจใส่ดูแลของผู้ปกครองจะมีส่วนในความสำเร็จนี้ด้วย
ขั้นตอนการจัดฟัน
หมอจะถามประวัติสุขภาพทั่วไป ตรวจในปากอย่างละเอียด พิมพ์ฟันทำแบบจำลองจากในปาก ถ่ายรูปเอ็กซ์เรย์ ฯ เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการรักษาและจะบอกคุณเมื่อนัดครั้งต่อไป ซึ่งคุณมีสิทธิ์ตัดสินใจอีกครั้งว่า จะจัดฟันหรือไม่ ถ้ามีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือที่จำเป็นต้องทำอย่างอื่นก็จะต้องไปจัดการให้สุขภาพเหงือกและฟันดีซะก่อนที่จะเริ่มจัดฟันได้
คำถามทั่ว ๆ ไป ที่คุณคงอยากทราบ
- จัดฟันแล้วต้องมาพบหมอบ่อยไหม?
ประมาณ 3-4 อาทิตย์ต่อครั้ง
- เจ็บรึเปล่า?
มีบ้างเล็กน้อย ระยะแรกจะรู้สึกแปลก รำคาญเล็กน้อย ต้องอดทน แล้วแต่การปรับตัวเร็วช้าของแต่ละคนด้วยต่อไปก็จะชินไปเอง
- กินอาหารได้ทุกอย่างไหม?
ได้เกือบทุกอย่าง ยกเว้น อาหารแข็ง เหนียว เช่น หมากฝรั่ง แทะข้าวโพด ลูกกวาด ฯ
- แปรงฟันอย่างไร?
แน่นอน ต้องแปรงฟันหลังอาหารทุกมือ เพราะเศษอาหารจะติดฟัน และเครื่องมือได้ง่าย ถ้าไม่แปรงให้สะอาดฟันจะผุ เหงือกอักเสบ และมีกลิ่นปาก
อย่างไรก็ตาม คุณจะมีโอกาสจัดฟันหรือไม่จัดก็ตาม สิ่งที่ทุกท่านต้องปฏิบัติคือ เด็กตรวจฟันทุก 6 เดือน ผู้ใหญ่ปีละครั้งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ธรรมชาติให้ความสมดุลของฟัน ใบหน้า และส่วนประกอบอื่นแก่แต่ละคนมาแล้ว มีทั้งดีมากและดีน้อย จึงควรภูมิใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ ทุกท่านมีความสวย หรือหล่อในตนเองอยู่แล้ว ขอให้มีสุขภาพกาย สุขภาพช่องปาก และสุขภาพจิตที่ดี คุณก็จะ "ยิ่มสยาม" ได้อย่างมั่นใจ เป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น

อาหารจานโปรดของผมครับ หลนปูเค็ม






อาหารจานโปรดครับผม หลนปูเค็ม
วิธีทำ
ส่วนผสมปูเค็ม 5 ตัวหัวกะทิ 1 ถ้วยตวงหางกะทิ 3 ถ้วยตวงหมูสับ 200 กรัมหัวหอมแดง 5-6 หัวใบมะกรูดฉีก 3 ใบพริกชี้ฟ้า 2-3 เม็ดใหญ่น้ำตาลปีบน้ำมะขามเปียกหรือน้ำมะนาว แนะนำให้ใช้น้ำมะนาวค่ะเพราะสีของหลนจะน่ากินกว่า หรือถ้าหามะดันได้ใช้มะดันค่ะ แต่วันนี้จุ๋มใช้ยอดมะขามอ่อนเกลือป่น
ปูเค็มซื้อมาจากตลาด ขีดละ 15 บาท 5 ตัวหนักราว 3 ขีดกว่า ๆ 48 บาทค่ะ
จานนี้หัวหอมแดง ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า พอดีจุ๋มมีในตู้เย็นสีแดงค่ะ แนะนำให้ใช้สีเหลืองและสีเขียวด้วย เพราะสีจะได้ตัดกันกับปูค่ะ ของจุ๋มออกแดงอย่างเดียวเลยในรูปมีมะขามเปียกด้วย จุ๋มหยิบมาเผื่อเท่านั้น จริง ๆ ไม่ได้ใช้ค่ะ
ใครไม่รู้จักใบมะขามอ่อน หน้าตาแบบนี้นะคะ นิยมใช้นำมาใส่แกงส้ม ต้มแซ่บ ตลาดบางกะปิขีดละ 8-10 บาทค่ะ จุ๋มซื้อมา 1 ขีด แต่จริง ๆ ใช้ไม่หมดหรอก ใช้ไปประมาณ 1/2 ขีด
ปูเค็มซื้อมาเอาใส่ตะแกรง เอาน้ำราดผ่าน ๆ 1 ทีนะคะ เค้าใส่ถาด ๆ ไว้บางทีแมลงวันตอมก็มี แล้วก็ปล่อยให้มันสะเด็ดน้ำหน่อย แกะกระดองแยกออกจากตัว แกะเอานมทิ้งไป แกะขี้มันออก หักปลายขาท่อนสุดท้ายออกด้วยค่ะ
หักปลายขาทิ้งไปแบบนี้นะคะ ซื้อกินตามร้านบางร้านเขาก็ไม่หักหรอก ทำกินเองหักเถอะคะ
กระดองจุ๋มแยกเอาไว้ซีกนึง
ตัวปูจุ๋มหักตามแนวตั้งเป็น 2 ส่วนนะคะ บางคนอาจจะไม่หักก็ได้ แต่มันกินลำบาก
หัวหอมแดง ปอก ล้าง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ครับ
พริกชี้ฟ้าล้าง หั่นเป็นท่อนขนาด 1/2 นิ้ว
ใบมะกรูดล้าง ฉีก ๆ เส้นกลางใบเอาทิ้งไปครับ
จุ๋มมีหมูสับอยู่ 2 ขีด ก็ว่ามันเยอะอยู่เหมือนกันสำหรับปูแค่นี้ เลยเอาหมูสับยัดใส่กระดองมันค่ะ แต่จริง ๆ ไม่ต้องยัดดีกว่า น้ำหลนจะได้ข้นกว่านี้หน่อย อิอิ หรือไม่ก็เพิ่มหมูสับไปอีก 50 กรัมนะครับ ถ้าจะยัดหมูสับใส่กระดองปู
หางกะทิใส่หม้อครับ จุ๋มใช้กะทิถุง 1 ถ้วย ใส่น้ำเปล่า 2 ถ้วยนะครับ
เอาไปตั้งไฟกลาง ๆ ให้เดือดครับ
กะทิเดือดแล้ว แบ่งมาใส่ในชามหมูสับหน่อยนึงค่ะ ให้พอท่วมหมูสับ
แล้วก็ใช้ช้อนหรือทัพพียี ๆ ให้หมูสับกระจาย อย่าให้เป็นก้อนครับ
แล้วก็เอาหมูสับเทใส่หม้อกะทิที่เราตั้งไฟไว้
เอากระดองปูที่ยัดไส้หมูสับไว้ใส่ตามลงไปครับ
จากนั้นลดไฟลงอ่อนเคี่ยวต่อไป ให้น้ำกะทิเหลือสัก 1/2 นึงของเมื่อกี้ครับ
เคี่ยวจนน้ำงวดแบบนี้ครับ
คราวนี้ใส่หัวกะทิอีกถ้วยลงไปครับ
ตั้งไฟต่อนั่นล่ะ เพิ่มเป็นไฟกลางนะครับ
พอน้ำกะทิเดือดใส่ปูเค็มที่ฉีกไว้ลงไป
ไม่ต้องไปคนมันครับ ปล่อยให้มันเดือดจนปูสุกเป็นสีส้ม
แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบ เกลือป่น ถ้าใช้มะดันใส่ตอนนี้เลยครับ ถ้าใช้มะนาวบีบตอนหลังครับ ชิมก่อนค่อยปรุงรสนะครับเพราะปูบางจ้าวเค็มมาก เดี๋ยวเค็มปี๋จุ๋มไม่รับผิดชอบนะครับ
ก็ชิม ๆ ดูตามชอบครับ อาหารพวกหลนจะออกรส เค็ม หวาน เปรี้ยว พอเดือดอีกทีก็ใส่หัวหอมซอยลงไปครับ
ตามด้วยพริกชี้ฟ้า
ใบมะกรูดฉีก ถ้าชอบผักสุกมากก็ทิ้งเวลาไว้นานหน่อยนะครับ
ของจุ๋มใส่ใบมะขามอ่อนเลยใส่ตอนนี้ครับ
คน ๆ ให้เข้ากัน ปิดเตาได้แล้วครับ
ตักใส่ชามโลดครับ จุ๋มกินคนเดียวเลยชามนี้
ผัก ผัก ผัก ในตู้เย็นมีอยู่แค่นี้
ก้ามใหญ่ ๆ เอาไปเลยครับ
กินอร่อยเชียร์บอลสนุกและรักในหลวงทุกท่านครับ

วิธีการสร้างบทความใหม่และการแทรกรูปในบทความ

วิธีการสร้างบทความใหม่และการแทรกรูปในบทความ

เป็นวิธีง่ายๆที่เพื่อนๆที่สนใจสามารถทำได้ไปดูขั้นตอนกันเลยครับ
1.เข้าไปในหน้าแล้กของ Blog คลิกไปที่คำว่าบทความทางด้านขวามือ




2.ตั้งชื่อบทความของเราว่าเป็นเรื่องอะไร




3.พิมพ์ข้อมูลลงไปในช่องขนาดใหญ่ที่ใส่บทความ




4.พิมพ์หัวข้อเรื่องลงในป้ายประกาศ




5.ในการแทรกรูปนั้นให้ไปคลิกเพิ่มรูปภาพ





6.เมื่อคลิกเข้าไปก็จะเจอหน้าต่างรูปภาพและคลิกไปที่ Borwes





7.ก็จะเข้าไปในไฟล์ที่เก็บรูปของเราเลือกรูปตามต้องการ





8.เมื่อเลือกรูปได้แล้วก็คลิกอัปโหลดเลย





9.รอในการทำการอัปโหลด





10.คลิกไปที่แสดงตัวอยางทามด้านขวามือเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและสวยงาม และคลิกคำว่าเผยแพ่รบทความ


11.คลิกที่ดูบล็อกหรือถ้าอยากสร้างบทความให้ก็คลิกที่สร้างบทความใหม่



11.Blog ที่เสร็จแล้ว




ไม่ยากเลยใช่ไหมครับเพื่อนก็ลองไปทำดูนะครับ












วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

20 วิธีลดหุ่นให้เข้าที่


20 วิธีลดหุ่นให้เข้าที่

1. ใช้จานชามสีเข้มขรึม นื่องจากภาชนะใส่อาหารที่มีสีสดใสจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้น ดังนั้นเพื่อสกัดกั้นความอยากเสียตั้งแต่ยังไม่เริ่มลงมือกิน จึงควรจัดอาหารใส่ไว้ในภาชนะสีเข้มๆ อย่างเช่น สีดำ หรือสีน้ำเงินเข้ม จะเป็นการดีกว่า
2. รับประทานผักมากๆ แบ่งสัดส่วนการรับประทานอาหารในแต่ละวันของคุณออกเป็น 4 มื้อ และสามในสี่มื้อนั้นควรเป็นอาหารประเภทผักล้วนๆ คิดเสียว่าอย่างไรผักก็มีประโยชน์ และหากอยากลดหุ่นให้ได้จริงๆ ข้อนี้ห้ามละเลย
3. ดื่มน้ำเย็นๆ เพราะน้ำเย็นๆ จะช่วยให้ร่างกายต้องดึงพลังงานความร้อนในตัวออกมาเพื่อปรับอุณหภูมิของน้ำนั้นให้เหมาะสมกับอุณหภูมิในร่างกาย ด้วยเหตุนี้ขณะที่เราได้ดื่มน้ำเย็นๆ ร่างกายจึงต้องเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น
4. กินแต่อาหารที่ไม่ติดมัน อาหารประเภทเนื้อสัตว์ติดมัน หมูสามชั้นทอดกรอบ กุนเชียง กากหมู หนังไก่หรืออาหารที่ทอดด้วยน้ำมัน ควรจะงดเว้นให้เด็ดขาด หากยังไม่อยากสูญเสียทรวดทรงองค์เอวอันสวยงามสมส่วน
5. เลือกกินของหวานอย่างเหมาะสม ขนมหวานๆ อย่างทองหยิบ ฝอยทอง หม้อแกง เค้กหรือช็อกโกแลตเป็นของหวานที่อุดมไปด้วยนม เนย ไข่ และน้ำตาล แถมเวลาได้รับประทานแล้วจะรู้สึกเพลิดเพลินมีความสุข ทำให้ทานชิ้นเดียวหยุดไม่ได้ ฉะนั้นหากต้องการลดน้ำหนักก็จงตัดอกตัดใจเสียเถอะ ทางที่ดีควรหันมารับประทานลูกพลับ หรืออินทผลัมอบแห้งจะสามารถช่วยป้องกันอาการอยากของหวานเหล่านั้นได้
6. งดใส่ครีมในกาแฟ แม้ครีมเทียมจะทำให้รสชาติของกาแฟกลมกล่อมขึ้น แต่คิดดูสิ ครีมเทียมเพียง 1 กรัม สามารถให้พลังงานสูงถึง 9 แคลอรี แล้วกาแฟที่คุณดื่ม ใส่ครีมกี่ช้อนต่อแก้ว ถ้าวันหนึ่งคุณดื่มกาแฟสัก 3-4 แก้ว ร่างกายจะได้รับแคลอรี่โดยไม่รู้ตัวมากมายขนาดไหน
7. สลัดน้ำข้น ไขมันเพียบ! คุณบอกว่ารับประทานแต่สลัด แต่ทำไมยังอ้วนอีก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะน้ำสลัดที่คุณเลือกรับประทาน ล้วนเป็นน้ำสลัดข้นๆ ที่อุดมไปด้วยครีมนม และไขมันนม ถ้ารับประทานอย่างนี้แล้ว จะผอมได้อย่างไรละคะ. ซดน้ำแกงจืดก่อนอาหาร เป็นความคิดที่ดีที่จะจัดการกับน้ำแกงจืดหรือไม่ก็ดื่มน้ำสักแก้วสองแก้วก่อนรับประทานอาหาร ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณรู้สึกอิ่มกับอาหารตรงหน้า แต่ถ้าหากยังสามารถกินอาหารได้อีก ก็จะกินได้ในปริมาณที่น้อยลง
9. เลือกกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว ข้าวเป็นอาหารหลักที่เราต้องรับประทานเกือบทุกมื้ออยู่แล้ว และถ้าหากได้รับประทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว เราก็จะไม่ได้เพียงแค่คาร์โบไฮเดรตเฉยๆ แต่ยังได้ทั้งวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ มากมายจากเยื่อหุ้มและจมูกข้าวที่ไม่ได้ถูกขัดสีออกไปด้วย
10. เลิกนิสัยกินจุบกินจิบ อย่าสร้างความเคยชินให้กับตัวเองด้วยการกินนั่นกินนี่ไม่เป็นเวล่ำเวลาอยู่เรื่อยไป แต่ควรกินอาหารเป็นมื้อเป็นคราวเท่านั้น โดยเฉพาะเวลานั่งอยู่หน้าจอทีวีไม่ควรจหาขนมกรุบกรอบ อาทิเช่น มันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบหรือคุ้กกี้ กินไปดูทีวีไปตลอดเวลา เพราะจะทำให้กินเพลินจนลืมเรื่องอ้วน
11. หาเพื่อนร่วมลด การลดน้ำหนักคนเดียว บางครั้งอาจทำให้รู้สึกท้อแท้ แต่ถ้ามีเพื่อนหัวอกเดียวกันที่มุ่งมั่นจะรีดไขมันส่วนเกินออกจากชีวิตเหมือนกัน จะช่วยทำให้มีกำลังใจขึ้นเยอะ อย่างน้อยๆ คุณก็ยังรู้สึกว่า "ฉันไม่ได้เป็นคนอ้วนที่ต้องลดน้ำหนักอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย"
12. ดินเนอร์ใต้แสงเทียนภายใต้แสงเทียนนอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกขึ้นแล้ว ท่ามกลางแสงสลัวๆ แบบนั้นยังทำให้ความอยากอาหารลดน้อยลงอีกด้วย
13. อาหารมื้อเช้าอาหารมื้อไหนๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับมื้อเช้า ทั้งนี้เพราะช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงถึง 10 โมงเช้า เป็นช่วงที่ระบบการเผาผลาญสารอาหารภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นจึงควรกินอาหารเช้าใด้เต็มที่ ส่วนมื้อเย็นให้กินแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
14. ไม่กักตุนอาหารเต็มตู้เย็น ทั้งนี้เพราะจะทำให้คุณหาของกินได้ง่ายและสะดวกสบายเกินไป ยิ่งมีของกินในตู้เย็นมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งกินตามใจปากมากขึ้นเท่านั้น
15. ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน ผลไม้อย่างแอปเปิ้ล ส้ม ฝรั่ง กีวี สตรอเบอร์รี่ สับปะรด มะม่วงหรือมะเขือเทศ นับเป็นผลไม้ที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รักษาหุ่นอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งวิตามินซีคุณภาพสูงจากธรรมชาติแล้ว16. ดื่มตบท้ายด้วยชามะนาว หลังอาหารแต่ละมื้อควรดื่มชามะนาวตบท้าย จะสามารถช่วยชะล้างปากจากอาหารคาว หรืออาหารมันๆ เลี่ยนๆ ได้ดีกว่าดื่มน้ำเปล่าธรรมดา แถมยังสามารถช่วยยุติความอยากอาหารเรื่อยเปื่อยของคุณอย่างได้ผลด้วย
17. ออกกำลังกายการออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีให้กลายเป็นพลังงานได้คราวละมากๆ ฉะนั้นจึงควรเตือนตัวเองให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ ซึ่งนอกเหนือจากเล่นกีฬาเป็นงานอดิเรกแล้ว ก็ควรหมั่นฝึกตนให้เป็นคนชอบเดิน ชอบทำงานบ้าน และชอบขึ้นลงบันได
18. กิจวัตรแรกสุดของทุกๆ วัน หลังจากตื่นนอนตอนเช้า กิจวัตรแรกสุดที่ควรทำทันทีก็ไม่ใช่อะไรอื่น นั่นก็คือดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถดื่มได้ ทั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นขึ้น และช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายทั้งหนักทั้งเบาทำงานได้อย่างคล่องตัว
19. ชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้งเมื่อปฎิบัติได้ตามคำแนะนำดังกล่าวข้างต้นแล้ว ควรติดตามผลการลดหุ่น ด้วยการเปลือยกายสำรวจตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำส่วนตัว และชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้งก็พอ ไม่จำเป็นจะต้องชั่งทุกๆ วัน เพราะการทำเช่นนั้นรังแต่จะทำให้รู้สึกเครียดและคับข้องใจที่น้ำหนักไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นผลได้ทันตา
20. อย่าลืมให้รางวัลกับตัวเองหลังจากที่สามารถขจัดไขมันส่วนเกินในร่างกายให้ลดลงไปได้สำเร็จ (แม้จะลงไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม) คุณก็สามารถจะให้รางวัลกับตัวเองด้วยการไปนวดหน้า นวดตัว ขัดผิวและบำรุงผิว เพียงเท่านี้หน้าตาและผิวพรรณคุณก็จะแลดูสดใสและปิ๊งปั๊งขึ้นมาทันตาเห็น

สุขภาพดี … คุณเอง เป็นผู้กำหนด

สุขภาพดี … คุณเอง เป็นผู้กำหนด



ความจริงที่ว่า ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ ยังเป็นคำพูดที่ไม่ล้าสมัย เพราะคงไม่มีใครปฏิเสธว่าการมีสุขภาพดี มีค่ากว่าการได้ลาภเป็นเงินเป็นทองด้วยซ้ำไป เพราะแม้ว่าจะมีเงินมากองจนท่วมตัวก็ไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีคืนมาได้
สุขภาพเป็นสิ่งที่ไม่มีใคร … นอกจากตัวเราเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนด เป็นสิ่งที่เราเลือกได้ แต่เราได้เลือกแล้วหรือยัง มองย้อนกลับไปดูว่า ที่ผ่านมา เราดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องหรือเปล่า เราสนใจเรื่องอาหารการกินมากน้อยแค่ไหน เรากินเพื่ออยู่ไปวัน ๆ หรือเรามีความสุขกับการกิน จนมากเกินไป ถ้าเป็นเช่นนั้น คงถึงเวลาแล้วที่เราต้องรีบปรับตัว และไม่ปล่อยปละละเลยกับการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะหากเป็นปัญหาขึ้นมาแล้ว อาจสายเกินแก้
เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพ เรื่องอาหารการกินดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดเจนกว่าเรื่องอื่น ดังนั้น การจัดปรับ พฤติกรรมการกินให้ถูกต้อง ถูกหลักโภชนาการที่ดี กินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ กินเป็นเวลา ที่สำคัญ คือ กินให้พอดีและ กินให้หลากหลาย ก็สามารถลดความเสี่ยง ต่อการเจ็บป่วย ไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ในการทำความเข้าใจเรื่องการกิน อาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากการกินได้ ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองสำรวจตัวเองว่ามีพฤติกรรมการกิน อาหาร เพื่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน จากโภชนบัญญัติ 9 ข้อต่อไปนี้
1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลาย ไม่ซ้ำซาก เพื่อความเพียงพอของสารอาหารและไม่สะสมสารพิษ ในร่างกาย และหมั่นดูแล น้ำหนักตัว
2. กินข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ และเพื่อคุณค่าที่มากกว่าขอแนะ
3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ เพื่อให้ได้วิตามิน ใยอาหารและสารป้องกันอนุมูลอิสระ
4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ คนทั่วไปที่สุขภาพดีไม่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูงกินไข่ได้วันละ 1 ฟอง ผู้สูงอายุกินไข่ได้วันเว้นวัน ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลืองเป็นอาหารเพื่อสุขภาพควรกินเป็นประจำ
5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย นมที่ไขมันต่ำหรือนมถั่วเหลือง จะให้ประโยชน์มากทำให้ไม่มีไขมันสะสม
6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร ลดการกินอาหารผัดและทอด ปรุงอาหารด้วยวิธีต้ม นึ่ง อบ แทน
7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด เพื่อลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
8 . กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน เลือกซื้ออาหารปรุงสุกใหม่ ๆ ล้างผักให้สะอาดก่อนปรุง
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะบั่นทอนสุขภาพและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
โภชนบัญญัติ 9 ข้อ นี้ บอกถึงการกินดี กินอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องการนำไปปฏิบัติจริงๆ เราจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ ปริมาณของอาหารที่จะกิน ให้เหมาะสมด้วย ใครควรจะกินมากกินน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ อายุ เพศ และกิจกรรมที่ต้อง มีการใช้พลังงาน มากน้อยต่างกันของแต่ละคน ซึ่งจะติดตามได้ต่อไป

การติดตั้ง

ที่มาhttp://www.karaoke-soft.com/karaoke/extreme/doc/setup/setup.html


1.ทำการขยายไฟล์ชุดติดตั้ง จะได้ดังรูป
Setup.exe เป็นตัวติดตั้งโปรแกรม
Folder Program ข้อมูลโปรแกรม
Folder SQL เป็นตัว KaraPlayer.exe ให้ copy ตัวนี้ทับตัวที่ติดตั้ง กรณีต้องการใช้ฐานข้อมูลเพลงแบบ SQL
2.ทำการติดตั้งโปรแกรม Double Click ที่ setup.exe เพื่อเริ่มติดตั้งโปรแกรม



3 เลือก Folder ที่จะทำการติดตั้งโปรแกรม ถ้าเครื่อง Compuer มี Hard Disk Drive มากกว่า 1 Drive แนะนำให้ติดตั้งที่ Drive อื่นที่ไม่ใช่ C: เพราะถ้า Windows มีปัญหาต้องทำการ Format เครื่องใหม่จะได้ไม่ต้องลงทะเบียนการใช้งานใหม่




4.เลือกชุด Component ในการติดตั้ง แนะนำให้เลือก Full installation สำหรับมือใหม่




5.แจ้งข้อมูลที่เลือกในการติดตั้ง click Install เพื่อเริ่มทำการติดตั้ง



6.โปรแกรมทำการติดตั้งข้อมูลลงในเครื่อง Computer



7. ทำการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์



8.ที่หน้า Desktop จะมี icon eXtreme Karaoke และเมนูที่ Start Menu ดังรูป

วิธีการติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ของ Windows XP

วิธีการติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ของ Windows XP

หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า "โปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ (Patch)" คำๆ นี้มีความสำคัญอย่างไรต่อการรักษาความปลอดภัยในเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ก่อนที่จะกล่าวถึงโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่นั้น เรามาทำความรู้จักกับคำว่า "ช่องโหว่ (Vulnerability)" ก่อน ช่องโหว่หรือ Vulnerability นั้นหมายถืง "ความอ่อนแอในระบบซึ่งยอมให้เกิดการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตได้" ซึ่งถ้ามีการเปรียบเทียบเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นบ้านที่เราอาศัยอยู่ ต่อมาไม่นานบ้านของเราเกิดความสึกหรอ เช่น กำแพงทะลุ หรือกระจกแตก เป็นต้น เมื่อเหล่ามิจฉาชีพที่เปรียบได้กับแฮกเกอร์หรือไวรัสต่างๆ เห็นช่องโหว่นั้นเข้าก็อยากที่จะเข้ามาในบ้านของเรา ด้วยเหตุนี้เองเราจึงต้องทำการอุดรูรั่วหรือช่องโหว่อาจจะโดยการโบกปูนปิดรอยรั่ว หรือเปลี่ยนกระจกใหม่ เป็นต้น แต่ในทางคอมพิวเตอร์นั้นการอุดรูรั่วหมายถึงการติดตั้งโปรแกรมเพื่อทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โปรแกรมดังกล่าวก็คือ "โปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ หรือ Patch" นั่นเอง
วิธีการอัพเดตระบบปฏิบัติการวินโดว์สนั้นสามารถทำได้หลายวิธี คือ อาจจะทำโดยการดาวน์โหลด hotfix แต่ละตัวมาทำการติดตั้ง (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaicert.nectec.or.th/paper/microsoft/hotfix.php) หรือใช้วิธีการ Windows Update (ในบทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้งาน Windows Update ทีละขั้นตอน) ข้อดีของการใช้งาน Windows Update คือ ง่าย และสามารถทำการติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ได้ครบถ้วน แต่ข้อเสียคืออาจจะต้องใช้เวลาในการดาวน์โหลดพอสมควร อย่างไรก็ตามวิธี Windows Update เป็นวิธีการที่ง่ายและเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกคน ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่มีความความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตลอดจนผู้ดูแลระบบที่มีความชำนาญสูง
ขั้นตอนกระบวนการติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่
1. ทำการตรวจสอบว่ามีโปรแกรมอะไรบ้างที่ยังไม่ได้ทำการอัพเดต มี 2 วิธีคือ
1.1. กดที่ปุ่ม Start เลือก Windows Update ดังรูปที่ 11.2. เปิดโปรแกรม Internet Explorer (IE) เลือกเมนู Tools และ Windows Update ดังรูปที่ 2




รูปที่ 1 แสดงวิธีการอัพเดตระบบปฏิบัติการวินโดว์ส แบบที่ 1




รูปที่ 2 แสดงวิธีการอัพเดตระบบปฏิบัติการวินโดว์ส แบบที่ 2
2. จากข้อที่ 1 ผลที่ได้จะเหมือนกันคือ จะมีการติดต่อไปยังเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์เพื่อร้องขอการอัพเดต ดังรูปที่ 3 จากนั้นทำการกดเลือก Scan for updates




รูปที่ 3 แสดงเว็บไซต์หน้าแรก ก่อนเริ่มทำการติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่
3. จากนั้น Windows Update จะทำการตรวจสอบภายในเครื่องว่ามีโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ใดบ้างที่ยังไม่ได้ทำการติดตั้ง ดังรูปที่ 4 และ 5




รูปที่ 4 แสดงเว็บไซต์ขณะทำการตรวจสอบว่าเครื่องยังไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมอะไรบ้าง



รูปที่ 5 แสดงเว็บไซต์ผลการตรวจสอบ
4. โปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการวินโดว์ส XP จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ
4.1. Critical Updates and Service Pack เป็นโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ที่มีผลกระทบรุนแรงมาก ต้องทำการติดตั้งโดยเร่งด่วน และเมื่อรัน Windows Updates แล้ว จะมีการเตรียมการติดตั้งโดยอัตโนมัติ4.2. Windows XP เป็นโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ที่ผลกระทบอยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตามก็ต้องทำการติดตั้งด้วย ซึ่งสามารถเลือกติดตั้งโดยคลิกที่ Windows XP ที่เมนูด้านซ้ายมือ จากนั้นจะปรากฎโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ที่ให้เลือกทำการติดตั้งในด้านขวามือ ถ้าจะเลือกติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ใดก็ให้กดที่ปุ่ม Add ดังรูปที่ 6 - 7 4.3. Driver Updates เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการอัพเดตไดร์ฟเวอร์ของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ภายในเครื่อง เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งวิธีการเลือกก็เหมือนกับข้อ 4.2



รูปที่ 6 แสดงเว็บไซต์ให้เลือกโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่




รูปที่ 7 แสดงเว็บไซต์ให้เลือกโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่
5. หลังจากทำการเลือกโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่เสร็จแล้ว ก็เป็นขั้นตอนของการตรวจสอบข้อมูลก่อนการติดตั้ง ดังรูปที่ 8 และเมื่อตรวจสอบข้อมูลครบแล้ว ก็เริ่มทำการติดตั้งโดยการกดปุ่ม Install Now





รูปที่ 8 แสดงเว็บไซต์ก่อนทำการติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่
6. หลังจากกดปุ่ม Install Now แล้ว จะมีไดอะล็อกปรากฏขึ้นมาแสดงสถานะของการติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่ ดังรูปที่ 9 และ 10 จากนั้นก็รอจนกระทั่งติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่เสร็จเรียบร้อย


รูปที่ 9 แสดงสถานะขณะเริ่มดาวน์โหลดโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่



รูปที่ 10 แสดงสถานะขณะดาวน์โหลดโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่

7. หลังจากทำการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมซ่อมแซมช่องโหว่เรียบร้อยแล้วให้ทำการรีสตาร์ทเครื่อง

การดูแลผิวพรรณด้วยสมุนไพร

การดูแลผิวพรรณด้วยสมุนไพร


ความสวยความงาม นับเป็นเรื่องที่มนุษย์เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอิทธิพลต่อจิตใจของผู้คน หรือเรียกว่าเป็นจิตวิทยาของโลกเลยทีเดียว การได้เห็นของสวยๆ งามๆ ย่อมทำให้จิตใจชุ่มชื่น แต่อย่างไรก็ตาม การดูแลร่างกายให้มีสุขภาพสมบูรณ์ด้วยทางอาหารที่ครบถ้วน ก็จะทำให้ผิวพรรณสดใสงดงามได้
แต่ในปัจจุบันนี้สังคมได้พัฒนาไปมากด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ได้มีการสกัดสารสำคัญจากธรรมชาติ เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโลชั่นบำรุงผิวพรรณ หรือเครื่องประทินความงามอื่นๆ มาวางตลาดให้เลือก แต่ย่อมมีราคาแพง จึงเป็นผลให้คนที่ยึดติดกับเรื่องความสวยความงามต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นอันมาก
สถาบันการแพทย์แผนไทย เล็งเห็นความต้องการของประชาชน จึงพยายามค้นหาทางเลือกให้สำหรับคนรักสวยรักงาม แต่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายก็อาจเลือกใช้สารจากธรรมชาติในการดูแลความงามด้วยตนเอง โดยไม่ต้องไปซื้อหาให้มากด้วยราคา
ฉะนั้นในฉบับนี้ สถาบันการแพทย์แผนไทย จึงคัดเลือกสมุนไพรที่มีผลต่อความงามของผิวพรรณ พร้อมวิธีใช้มาเสนอ อาทิ ว่านหางจระเข้ ซึ่งมีจารึกไว้ว่า แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็ยังใช้ว่านหางจระเข้ ในการบำรุงผิวพรรณ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรู้สมัยใหม่ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมความงามนั้นก็ได้นำความรู้ดั้งเดิมมาประยุกต์ ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญาไทย หรือภูมิปัญญาพื้นบ้านต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีส่วนเป็นอย่างมากในการพิจารณาผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
สมุนไพรบำรุงผิวหน้าและผิวกาย
1. ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle) คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางค์หลายอย่างที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติ สามารถช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึมทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ฉะนั้นว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณ ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่าว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิวและลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย
การใช้ว่านหางจระเข้เพื่อบำรุงผิว โดยปอกเปลือกออกใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใสที่อยู่ภายใน ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่าตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาวของว่านหางจระเข้ทาตรงบริเวณโคนหูแล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดงแสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้ตลอด แต่บางคนก็จะเห็นผลได้เหมือนกัน เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว
นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้านและลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวที่มันก็จะช่วยให้ลดความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้งก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้
2. งา (Sesamum indicum Linn., S. orientle,L) เป็นพืชล้มลุกให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำและสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ประมาณ 45-54 % น้ำมันงามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้โดยการนำเอาเมล็ดงาสด มาบีบน้ำมันงาออกโดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนังเพื่อบำรุงผิวพรรณให้ผุดผ่อง ช่วยประทินผิวให้นุ่มนวลไม่หยาบกร้าน

3. แตงกวา (Cucumis sativas Linn.) จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกว่ายังมีเอนไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอนไซม์ชนิดนี้จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มเกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสดผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาดแทนน้ำแตงกวา ปัจจุบันมีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพรที่หาง่ายมีประโยชน์ราคาถูก ใช้ติดต่อกันเป็นประจำจะทำให้สวยสดชื่นมีน้ำมีนวล
4. มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum Mill.) ในมะเขือเทศจะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุกจะมีสาร 1icopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียได้ และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้าจะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้

5. ขมิ้นชัน (Curcuma Longa Linn.) ในขมิ้นจะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัวเพื่อให้มีสีเหลืองทองใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย

6. น้ำผึ้ง (Apis dorsata) ได้จากผึ้ง ในน้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส, ฟรุกโตส, ขี้ผึ้ง, อัลบูมินอยด์, ละอองเกสรดอกไม้, และฮอร์โมนเอสโตรเจนจำนวนเล็กน้อย น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ใช้พอกหน้าทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว น้ำผึ้งเป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์สูงและหาง่าย นอกจากนี้ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผม ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะช่วยบำรุงหนังศรีษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม
7. มะขามเปียก (Tamarindus indica Linn) มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขามจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบันได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่นและนมสดผสมให้เข้ากันดี พอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มได้
จากที่กล่าวมาแล้ว เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีการใช้สืบต่อกันมาเป็นเวลานาน และได้ถูกลืมไปชั่วระยะหนึ่ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และค่านิยมของคนไทยต่อค่านิยมด้านวัตถุ ทำให้คนรุ่นใหม่สนใจสินค้าจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันเป็นที่สังเกตว่าคนต่างประเทศสนใจภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม ซึ่งจะเห็นบ่อยว่ามีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามที่มีส่วนผสมของสมุนไพร
การที่เราหันไปใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ใช้สะดวกราคามักจะสูง แต่ถ้าเรานำเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในบ้านเรามาใช้เอง ได้สารสำคัญที่สดใหม่ ราคาถูก ไม่มีสารเคมีเจือปน อะไรที่เราหาได้ง่าย และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราปลูกใช้ได้เราจะทำให้เราพึ่งตนเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่เช่นปัจจุบัน



ที่มา : สถาบันการแพทย์แผนไทย

วิธีสมัครเวบ Blogger


ขั้นตอนการสมัคร Blog สิ่งสำคัญต้องสมัคร Gmail มาเรียบร้อยก่อนจึงจะสมัคร Blog เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานครับ ในบทนี้ จะได้สอนถึงการสร้างเว็บบล็อกเพื่อใช้งานเกี่ยวกับธุรกิจ Online ด้วย Google AdSense โดยบล็อกที่จะสร้างนี้ ต้องมีเนื้อหาเป็นภาษาอักกฤษก่อนนะครับ เพื่อที่จะเอาเว็บบล็อกอันนี้ไปสมัครกับ Google AdSense ไม่ต้องตกใจนะครับสำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญการเรื่องภาษาอังกฤษ หรือไม่รู้ภาษาอังกฤษเลยอย่างกระผม ก็สามารถทำเว็บภาษาอังกฤษได้ ส่วนรายละเอียดและวิธีการ จะเริ่ม ณ บันนี้ครับ
Stepที่1. คลิกที่ >>> Blog หรือไปที่ http://www.blogger.com/

จะปรากฎหน้าต่างดังรูปด้านบน เพื่อสมัครสมาชิกใหม่
Stepที่ 2.คลิกที่ >>> สร้างเว็บบล็อกของท่านเดี๋ยวนี้ จะปรากฎดังรูปด้านล่าง







Stepที่ 3. ให้ใส่รายละเอียดดังรูป-ที่อยู่อีเมล : (จากที่ท่านได้สมัคร Gmail มาแล้วก่อนหน้านี้)
-Enter Password : (ใส่รหัสผ่าน)-พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง-Displya name (ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก)-พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง
-คลิกดำเนินต่อไป
Stepที่ 4. จากนั้นให้ตั้งชื่อ เว็บบล็อกของท่าน
-คลิกที่ตรวจสอบ เพื่อตรวจเช็คดูว่า มีใครใช้ชื่อนี้ไปหรือยัง ถ้ามีแล้วระบบจะแจ้งเตือนว่าใช้ไม่ได้ และจะมีตัวเลือกให้เราโดยอัตโนมัต ถ้าชอบใจตัวไหน ก็คลิกที่ชื่อด้านล่างตัวนั้นได้ แต่ถ้าต้องการชื่ออื่นอีกก็ตรวจสอบจนกว่าจะได้ชื่อที่คุณพอใจ เมื่อได้ชื่อตามที่ต้องการแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป


Stepที่ 5. จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตามต้องการ
สามารถคลิกเพื่อดูตัวอย่างแม่แบบได้ เมื่อได้แม่แบบตามที่เราชอบแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป



Stepที่ 6. เพียงแค่นี้ คุณก็สามารถมีเว็บบล็อกเป็นของตัวเองไว้ใช้งานสำหรับทำเงินได้แล้วครับเป็นอย่างไรบ้างครับกับการสมัครเว็บบล็อก Blogger.com



ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ
ส่วนวิธีการใช้งาน สามารถศึกษาได้ในบทเรียนต่อไปครับ

วังนารายณ์ราชนิเวศน์



วังนารายณ์ราชนิเวศน์
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.2209เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ณ เมืองลพบุรี แบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานวังนารายณ์ชั้นใน กำแพงพระราชวังก่ออิฐถือปูนมีใบเสมาเรียงรายบนสันกำแพงมีซุ้มประตูทั้งหมด 11 ประตู ประตูทางเข้าเป็นทรงจตุรมุข มีช่องทางเข้าโค้งแหลมตรง จั่วซุ้มประตูตกแต่งลายกระจังปูนปั้นที่วิวัฒนาการมาจากดอกบัวเรียง 2,000 ช่อง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) โปรดเกล้าให้ซ่อมขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ.2399 เพื่อให้เป็นราชธานีชั้นใน และพระราชทานชื่อว่า "พระนารายณ์ราชนิเวศน์"
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ตั้งอยู่กลางวงเวียนเทพสตรีใกล้ศาลากลางจังหวัดลพบุรีบริเวณหัวถนนนารายณ์มหาราช ก่อนเข้าสู่ย่านตัวเมืองอนุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นรูปปั้น พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ก้าวพระบาทซ้ายออกมาข้างหน้าเล็กน้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรง ประกอบพิธีเปิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2509 ที่ฐานอนุสาวรีย์ได้จารึกข้อความว่า "สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ไทยผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง ทรงพระราชสมภพ ณ กรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2175 สวรรคต ณ เมืองลพบุรี เมื่อ พ.ศ.2231 พระองค์ทรงมีพระบรมราชกฤษดาภินิหารเป็นอย่างยิ่ง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเป็นกษัตริย์ในราชวงศ์ปราสาททององค์สุดท้าย ในรัชสมัยของพระองค์ วรรณคดีและศิลปะของไทยได้เจริญถึงขีดสูงสุด มีสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศอย่างกว้างขวาง เกียรติคุณของประเทศไทยแผ่ไพศาลเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณประชาชนชาวยไทย ได้ร่วมกันสร้าง และประดิษฐานอนุสาวรีย์นี้ไว้ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2509
ท่านสามารถดาวน์โหลดข้อมูลในรูปแบบ Microsoft Word ได้ที่นี่ http://hotfile.com/dl/806809/04916a4/.doc.html

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

วิธีการดาวน์โหลดแคมฟร๊อกเวอร์ชั่นใหม่





วิธีการดาวน์โหลดแคมฟร๊อกเวอร์ชั่นใหม่



1. ดาวน์โหลดแคมฟร๊อกเวอร์ชั่นใหม่ที่เวบไซต์เราได้เลยนะครับ http://www.camfrog.in.th/โดยพิมพ์ชื่อเวบไซต์ http://www.camfrog.in.th/ ที่ช่อง Address ในโปรแกรม Internet Explorer หรือโปรแกรมเข้าเวบอื่น ๆหรือจะดาวน์โหลดจากเวบแคมฟร๊อกโดยตรงก็ได้ครับที่ http://www.camfrog.com/

2. คลิกเลือก Camfrog Video Chat เวอร์ชั่นใหม่ จากโซนดาวน์โหลด



3. คลิกที่ลิงค์เพื่อดาวน์โหลดอีกครั้ง



ให้เซฟไฟล์ติดตั้งไว้ในเครื่องของท่าน


เลือกที่เก็บไฟล์ไว้ในเครื่องของท่าน


หลักจากดาว์โหลดเสร็จเรียบร้อย ให้รันไฟล์ติดตั้ง



ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรมแคมฟร๊อก

1. หลังจากรันไฟล์ที่ดาวน์โหลดแล้ว จะพบกับหน้าต่างติดตั้งโปรแกรม
ให้เลือก Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป


2. เลือกการ Option สำหรับการติดตั้ง ว่าต้องการติดตั้งอะไรบ้าง

- Camfrog Video Chat คือ โปรแกรมหลักของแคมฟร๊อก
- Run Camfrog on Starup กำหนดให้โปรแกรมแคมฟร๊อกรันทุกครั้งเมื่อเปิดเครื่อง
- Quick Launch Shortcut ใส่ไอคอนโปรแกรมที่ Quick Launch ของ windows
- Desktop Icon ใส่ไอคอนที่ Desktop
- Camfrog Toolbar ติดตั้งแคมฟร๊อกทูลบาร์ที่โปรแกรมเบราเซอร์


3. ให้ติ๊กเลือก I accept terms in the License Agreement และกด Next เพื่อไปขั้นตอนถัดไป


4. กำหนดโฟลเดอร์ที่ต้องการติดตั้งโปรแกรม

5. กำหนดเมนูใน Start Menu ของ Windows และกด Next > เพื่อไปขั้นตอนถัดไป






6. เลือกว่าต้องการติดตั้งโปรแกรม Pando หรือไม่ แล้วกด Next > เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป
แนะนำให้ติดตั้งเพราะโปรแกรม pando จะเป็นประโยชน์ในกรณีเราต้องการส่งไฟล์ต่อไปให้เพื่อน ๆ
(สามารถเลือกที่จะไม่ติดตั้งก็ได้)

โปรแกรม Pando คือโปรแกรมสำหรับส่งไฟล์ ใช้งานควบคู่กับโปรแกรมแคมฟร๊อก
ใช้พื้นที่ในการติดตั้ง 2MB

7. เลือกว่าจะติดตั้งโปรแกรม The Weather Chanel หรือไม่
(แนะนำว่าไม่ควรติดตั้ง เพราะโปรแกรมจะทำงานอัตโนมัติทุกครั้งเมื่อเปิดเครื่อง)

โปรแกรม The Weather Channel คือโปรแกรมดูสภาพอากาศทั่วโลก

8. หลังจากกด Next โปรแกรมจะทำการติดตั้ง
รอซักครู่จะขึ้นปุ่ม Finish เป็นอันจบการติดตั้งโปรแกรม




หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถรันโปรแกรมเพื่อใช้งานได้ทันทีครับ
ในขั้นตอนถัดไปจะเป็นวิธีการสมัครสมาชิก เพื่อให้ได้ ID สำหรับ Login เพื่อเข้าสู่โปรแกรมแคมฟร๊อก